ถมที่ดินอย่างไรให้เหมาะสมกับการสร้างบ้าน
การถมดิน เป็นกระบวนการหนึ่งในการสร้างบ้าน ซึ่งการถมดินนั้นถือว่าเป็นการสร้างรากฐานของตัวบ้าน เพราะฉะนั้นดินที่ถมจึงต้องมีความแน่นและแข็งมาก เพื่อให้การลงเสาหรือตอกเสาเข็มสามารถตั้งอยู่ได้อย่างมั่นคง ไม่โอนเอนหรือทรุดตัวลงได้ง่าย ๆ
วิธีการถมดินที่ดีสำหรับการสร้างบ้าน
การถมดินที่ดีสำหรับการสร้างบ้านนั้นมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ ที่ว่านี้ ได้แก่
- ระดับของดินที่ควรถมอย่างเหมาะสม
ปัจจัยนี้ต้องตรวจสอบว่าพื้นที่ที่เราจะปลูกบ้านเคยมีประวัติน้ำท่วมหรือไม่ ถ้าท่วมแล้วท่วมสูงมากแค่ไหน เมื่อถมดิน เราต้องถมดินให้สูงกว่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันน้ำท่วมไปในตัว
- ประเภทของดินที่ใช้
ดินที่ใช้มีหลายประเภททั้งดินเหนียว ดินลูกรัง ฯลฯ ซึ่งดินลูกรังถือว่าดีที่สุด เพราะสามารถบดอัดได้ดีและเมื่อบดแล้วดินแน่นและแข็งมาก
- ลักษณะการถม
ลักษณะการถมที่ดีคือเมื่อถมแล้ว รถบรรทุกควรถอยทับอีกครั้ง แบบนี้จะได้ดินในปริมาณที่มาก แต่ถ้าถมแบบตักดินจะเต็มเร็ว แต่หลวมและได้ดินน้อย
- ถมแล้วต้องบดอัด
เพราะการบดอัดจะยิ่งทำให้ดินมีความแน่นและแข็งมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
- เมื่อถมดินแล้วควรทิ้งเวลาเพื่อให้ดินยุบตัว
สำหรับบางบ้านที่มีปัญหาดินยุบตัวจนทำให้ตัวบ้านทรุด มักเกิดมาจากการถมดินที่ไม่แน่นมากพอ ทำให้บ้านเกิดการทรุดตัวได้เมื่อปลูกสร้างไปแล้วไม่นาน ดังนั้นจึงควรทิ้งระยะเวลาหลังจากการบดอัดอย่างน้อย 1 – 2 เดือน เพื่อให้ดินยิ่งอัดแน่น ซึ่งบางคนที่ถมดินลักษณะนี้จะพบว่าดินยุบตัวลงไปมากจนต้องถมดินและบดอัดใหม่อีกครั้งก็เคยมีมาแล้ว
ทั้งหมดนี้คือลักษณะการถมดินที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสร้างบ้าน ทำให้บ้านมีความมั่นคง แข็งแรงและไม่มีวันทรุดตัวอย่างแน่นอน…