ประกันการเดินทาง คืออะไร ควรทำหรือไม่มีข้อดีข้อเสีย ยังไงเรามีคำตอบ

2597

ประกันการเดินทาง คืออะไร ควรทำหรือไม่มีข้อดีข้อเสีย ยังไงเรามีคำตอบ

ประกันการเดินทางหลายท่านที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกันนั้นค่อนข้างจำเป็นที่จะต้องมีประกันการเดินทางติดไว้เพื่อเป็นการป้องกันหากเกิดอุบัติเหตุหรือของหายก็จะมีประกันเข้ามาดูแลในส่วนนี้ทำให้คุณสามารถอุ่นใจได้เมื่อไปเที่ยวต่างประเทศหากเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดอะไรขึ้นเช่นกระเป๋าหาย  อาการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ เครื่องบินล่าช้าในส่วนนี้จะมีคนเข้ามาช่วยดูแลคุณ ตลอดการเดินทางคุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไปก่อนจะซื้อประกันการเดินทางนั้นควรจะดูเงื่อนไขหรือรายละเอียดต่างๆ ให้ดีเพราะประกันการเดินทางแผนประกันของแต่ละบริษัทและเงื่อนไขรายละเอียดก็จะแตกต่างกันออกไปเราแนะนำให้เลือกแผนประกันการเดินทางที่เหมาะสมกับตัวคุณเองมากที่สุดเช่นคุณไปท่องเที่ยว ก็ควรจะเลือกประกันการเดินทางที่เหมาะสมกับการเดินทางของคุณ

สำหรับนักเดินทาง นอกจากความสะดวกสบายในการเดินทางแล้ว ความปลอดภัยถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากถามนักเดินทางทุกคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ความปรารถนาสูงสุดของการเดินทางคือความสะดวกราบรื่นและความปลอดภัย

เดินทางเมื่อไหร่อุ่นใจเสมอกับประกันภัยเดินทาง

            เพราะไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในขณะเดินทาง การประกันภัยระหว่างเดินทางจึงเป็นการคุ้มครองให้นักเดินทางทุกคนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกราบรื่น ปลอดภัย รวมถึงคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจทำให้นักเดินทางได้รับอันตราย

ความหมายของประกันภัยเดินทาง

            ประกันภัยเดินทาง คือ การประกันภัยอันตรายและความไม่สะดวกราบรื่นต่าง ๆ ตลอดการเดินทาง ไม่ว่าการเดินทางนั้นจะใกล้หรือไกล เป็นการเดินทางภายในประเทศหรือต่างประเทศและไม่ว่าการเดินทางนั้นจะเป็นการเดินทั้งทางบก ทางเรือ หรือทางอากาศ

ประโยชน์ของการทำประกันภัยเดินทาง

            การทำประกันภัยเดินทางนั้นช่วยสร้างความมั่นใจ อุ่นใจและเป็นเสมือนหลักประกันให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าการเดินทางนั้นจะพบกับปัญหา อุปสรรคหรือว่าอุบัติเหตุหรือไม่ ซึ่งการทำประกันภัยเดินทางมีประโยชน์ต่อนักเดินทาง ดังนี้

  • ดูแลการรักษาพยาบาล กรณีการเดินทางส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
  • คุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
  • คุ้มครองกรณีกระเป๋าเดินทางสูญหายหรือล่าช้ากว่ากำหนด
  • คุ้มครองกรณีการเดินทางหรือเที่ยวบินล่าช้า
  • คุ้มครองภัยจากการเดินทาง การปล้น การจี้ ฯลฯ

ประกันภัยเดินทางมีกี่ประเภทและมีขอบเขตในการคุ้มครองอย่างไร

            ปัจจุบันประกันภัยเดินทางมีหลายประเภทมาก ขึ้นอยู่กับโปรแกรมการคุ้มครองที่แต่ละบริษัทจัดให้ ยิ่งบริษัทไหนให้การคุ้มครองสูงและครอบคลุม ค่าใช้จ่ายในการทำประกันภัยเดินทางก็จะสูงตาม ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วมีขอบเขตในการคุ้มครอง ดังนี้

  • กรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียมือเท้าและสายตาจากการเกิดอุบัติเหตุ
  • กรณีรักษาตัวติดต่อกันในสถานพยาบาลและเสียชีวิตหรือสูญเสียมือเท้าและสายตา ภายใน 180 วัน นับแต่เกิดอุบัติเหตุ
  • ชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาพยาบาลนั้นตามที่ได้จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย ภายใน 52 สัปดาห์ นับแต่วันเกิดอุบัติเหตุ
  • กรณีเดินทางด้วยเครื่องบิน จะคุ้มครองเที่ยวบิน กระเป๋าเดินทางและความล่าช้าต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
  • กรณีเดินทางด้วยเรือ จะคุ้มครองอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทางน้ำทั้งหมด
  • กรณีเดินทางด้วยรถ จะคุ้มครองอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องถนนทั้งหมด

สำหรับการคุ้มครองอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ซึ่งการคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับโปรแกรมการคุ้มครองและเงื่อนไขที่ทำกับบริษัทที่รับทำประกันภัยเดินทาง

หลักเกณฑ์ในการจ่ายสินไหมทดแทนกรณีเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ

            การจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีเกิดอุบัติเหตุนั้น วงเงินในการจ่ายอาจขึ้นอยู่กับประกันภัยเดินทางที่แต่ละคนซื้อกับแต่ละบริษัท แต่โดยปกติแล้วหลักเกณฑ์ในการจ่ายค่าสินไหมทดแทน จะจ่ายให้ดังนี้

  • กรณีเสียชีวิต จ่าย 100 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • กรณีสูญเสียอวัยวะสำคัญ ได้แก่ มือ เท้าและสายตา ทั้งสองข้าง จ่าย 100 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • กรณีสูญเสียมือหนึ่งข้างและเท้าหนึ่งข้าง จ่าย 100 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • กรณีสูญเสียมือหนึ่งข้างและสายตาหนึ่งข้าง จ่าย 100 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • กรณีสูญเสียเท้าหนึ่งข้างและสายตาหนึ่งข้าง จ่าย 100 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • กรณีสูญเสียอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง ได้แก่ มือ เท้าและสายตาเพียงหนึ่งข้าง จ่าย 50 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ซึ่งในกรณีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนนั้น บริษัทจะจ่ายให้กับกรณีที่เกิดขึ้นสูงสุดเพียงรายการเดียวเท่านั้น

ทำไมบางกรณีบริษัทจึงปฏิเสธความรับผิดชอบ

            การทำประกันภัยเดินทางนั้น ถึงแม้ว่าบริษัทจะจ่ายให้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ จนส่งกระทบต่อผู้ทำประกันก็จริง แต่ก็มีหลายกรณีเช่นกันที่บริษัทปฏิเสธความรับผิดชอบและไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามที่ได้ทำข้อตกลงกันไว้ ซึ่งกรณีต่อไปนี้บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหาและจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้

1.เกิดจากการฆ่าตัวตายหรือพยายามทำร้ายตัวเอง

2.เกิดจากการทะเลาะวิวาท

3.เกิดจากการก่ออาชญากรรมที่มีความผิดสถานหนัก

4.เกิดจากการได้รับเชื้อโรค

5.เกิดจากการแท้งลูก

6.เกิดจากการควบคุมสติไม่ได้เพราะอยู่ภายใต้ฤทธิ์ของสุราหรือยาเสพติด

7.เกิดจากการล่าสัตว์ป่า การแข่งรถ แข่งเรือ แข่งม้า การเล่นสกีน้ำ การเล่นสเก็ตทุกประเภท การเล่นโปโล การโดดร่มและการชกมวยอาชีพ

8.เกิดขึ้นขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นทหาร ตำรวจ หรืออาสาสมัคร และปฏิบัติการในสงครามหรือการปราบปราม แต่บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยให้ตามอัตราส่วน ในกรณีปฏิบัติหน้าที่ติดต่อกันเกินกว่า 30 วัน

9.กรณีเกิดจากสงคราม สงครามการเมือง การปฏิวัติ การกบฏ การรุกราน การก่อความวุ่นวายต่อต้านรัฐบาล การนัดหยุดงานและการจลาจล

10.เกิดจากการรักษาทางเวชกรรมหรือศัลยกรรม

11.เกิดจากอาวุธนิวเคลียร์และการแผ่รังสีหรือกัมมันตภาพรังสี

เหล่านี้คือกรณีต่าง ๆ ที่บริษัทจะไม่รับผิดชอบใด ๆ หากเกิดขึ้น รวมทั้งไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ด้วย ดังนั้นผู้ทำประกันภัยเดินทางจำเป็นต้องศึกษาข้อตกลงก่อนการซื้อประกันภัยเดินทางกับแต่ละบริษัทให้ดี ๆ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดกรณีมีอุบัติเหตุต่าง ๆ เกิดขึ้นจริง

การทำประกันภัยเดินทางนับว่ามีประโยชน์สูงสุดจริง ๆ สำหรับนักเดินทางทุกคน ช่วยให้นักเดินทางอบอุ่นและมั่นใจทุกครั้งที่ต้องเดินทาง ราวกับมีเพื่อนเดินทางที่ดีที่สุด ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะไกลหรือใกล้และจะต้องเกิดกับเหตุการณ์ใด ๆ ก็ตาม